5 เหตุผล ทำไมคุณจึงต้องมีกล้องวงจรปิดไว้ใช้งานได้แล้ว

5 เหตุผล ทำไมคุณจึงต้องมีกล้องวงจรปิดไว้ใช้งานได้แล้ว

ในยุคปัจจุบันมีภัยร้ายเกิดขึ้นมากมายทั้งด้านร่างการ และ ทรัพย์สิน บางคนก็คิดว่าเราควรวจะทำยังไงถึงจะป้องกันและแก้ไข ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น และนั่นเป็นเหตุผลว่าเพราะเหตุใดจึงมีกล้องวงจรปิดเกิดขึ้น การติดตั้งกล้องวงจรปิดจะช่วยให้เราสามารถตรวจสอบ และใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีความต่าง ๆ ได้ แต่หลายคนยังคงคิดว่าการติดกล้องวงจรปิดนั้นไม่จำเป็น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็ไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่จะสามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานในการอ้างอิงเหตุการณ์ได้ และมักคิดได้ในภายหลังว่าทำไมเราไม่ติดกล้องวงจรปิดก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายขึ้น ดังนั้น 5 เหตุผลทำไมคุณจึงต้องมีกล้องวงจรปิดไว้ใช้งานได้แล้ว คือ

 

1. ราคาถูกมากแล้วตอนนี้
เมื่อ 8-10 ปีที่แล้วประชาชนทั่วไปอาจจะไม่เห็นความจำเป็นของการใช้กล้องวงจรปิด(CCTV)
จึงมีการใช้เฉพาะกลุ่มธุรกิจ อาคารสำนักงาน โรงแรมและสถานที่ราชการต่างๆ   แต่แม้ผู้บริโภคอยากจะได้กล้องวงจรปิดมาใช้สักตัวก็ต้องลงทุนค่อนข้างเยอะเหมือนกับการซื้อมือถือในยุคแรกๆที่มีราคาเป็นหลักแสน
ราคากล้องวงจรปิดก็เช่นกันในช่วงปี 2550 แม้จะลดลงมามากแล้วก็ยังแพงอยู่ ซึ่งตรวจสอบได้จาก
กรณีที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ในยุคนายอภิรักษ์  โกษะโยธิน เป็นผู้ว่าราชการ กทม.ได้มีความคิดริเริ่มในการติดตั้งกล้องวงจรปิด  ซึ่งเป็นการจัดซื้อในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองเกิดขึ้น โดยระยะแรกช่วงปี 2550-54 นั้นความละเอียดของกล้องอยู่ที่ 3 แสนพิกเซล โดย กทม.จัดซื้อมา 2,500 ตัว ด้วยราคา 30, 000 บาทต่อตัวมาติดตั้งเฉพาะในพื้นที่ชั้นใน ต่อมาในช่วงปี  2555-56 ได้เปิดประมูลจัดซื้อกล้องวงจรปิดประมาณ 10, 000 ตัว แม้จะมีความละเอียด  1 ล้านพิกเซล แต่จัดซื้อมาในราคาราวตัวละ 20,000 บาท
เนื่องจากการระเบิดทั่วพื้นที่กทม. จึงมีกระแสเรียกร้องให้ติดกล้องวงจรปิด  เนื่องจากในช่วงนั้นมีกล้องวงจรปิดน้อยมาก ส่วนใหญ่มีแต่กล้องจราจรเท่านั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้เสนอให้ติดตั้งเพื่อความปลอดภัย แต่ช่วงนั้นถือเป็นสถานการณ์เร่งด่วนและงบประมาณมีกำจัด จึงไม่สามารถดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิดได้ครบทุกจุด  จึงมีการติดกล้องดัมมี่เพื่อขู่ และป้องกันการชุมนุม
แต่ปัจจุบันในยุค มรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตรเป็นผู้ว่าราชการ กทม.ราคากล้องวงจรปิดประมาณตัวละ 10,000 บาทขึ้นไปแล้วแต่ความจุและความคมชัดของภาพ แต่หากความละเอียดสูงถึง 5 ล้านพิกเซลที่ติดตั้งตามทางแยกใหญ่ๆ ราคาอยู่ที่ 30,000  บาทต่อตัว  นอกจากนั้นมีการจัดซื้อมาในราคา  8,000 บาทต่อตัวมา ติดตั้งตามตรอกซอย และชุมชนต่างๆ โดยเป็นกล้องอนาล็อก (Analog) ที่มีความละเอียด 5-6 แสนพิกเซล
ส่วนราคาในท้องตลาดทั่วๆไปที่ไม่ต้องใช้ความละเอียดของภาพเยอะก็มีราคารวมชุดติดตั้งเป็นหลักหลักพันเท่านั้น และมีขนาดให้เลือกค่อนข้างมากตามประเภทที่เราจะนำไปใช้งาน จึงเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนทั่วไปน่าจะติดตั้งกล้องมากที่สุด เพราะราคาถูกมากแล้วในขณะนี้

 

2. ใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีได้
นับเป็นเรื่องที่จำเป็นไปแล้วสำหรับเจ้าของอาคาร ร้านค้า  ธนาคารและร้านค้าปลีกอย่างเซเว่น อีเลฟเว่นฯลฯ ที่ต้องติดตั้งกล้องวงจรปิด ทั้งการสร้างความอุ่นใจกับพนักงาน และเจ้าของที่พักอาศัย เนื่องจากวงการตำรวจและศาลให้การยอมรับในการนำข้อมูลในกล้องวงจรปิดไปใช้ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงในชั้นศาล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลภาพและเสียงที่ตำรวจได้จากกรณีผู้ชุมนุมประท้วง การทำลายอาคารสถานที่  หรือทะเลาะวิวาท การฉกชิงวิ่งราว และการทำผิดกฎจราจร ก็สามารถใช้เป็นหลักฐานในการจับผู้กระทำผิดได้
โดยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามีการบัญญัติอย่างไว้ในมาตรา 241 ที่ระบุว่า “สิ่งใดใช้เป็นพยานวัตถุต้องนำมาศาลในกรณีที่นำมาไม่ได้ ให้ศาลไปตรวจจดรายงานยังที่ที่พยานวัตถุนั้นอยู่ตามเวลาและวิธีซึ่งศาลเห็นสมควรตามลักษณะแห่งพยานวัตถุ”  และยังมีมาตตรา 242   ที่ระบุว่า “ในระหว่างสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา สิ่งของ ซึ่งเป็นพยานวัตถุต้องให้คู่ความหรือพยานตรวจดูถ้ามีการแก้ห่อหรือทำลายตรา การห่อหรือตีตราใหม่ให้ทำต่อหน้าคู่ความหรือพยานที่เกี่ยวข้องนั้น”
กรณีปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนที่จะฟ้องร้องคดีกันได้จำเป็นต้องสืบหาเพื่อให้มา ซึ่งหลักฐานจากภาพมาจากกล้องวงจรปิดในสถานที่ที่เกิดเหตุ โดยเข้าไปขอข้อมูลได้จากสถานที่ราชการ 2 แห่งหากอยู่ในพื้นที่ใกล้กับถนนหรือบริเวณแยกต่างๆคือ  กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) โดยสามารถมาตรวจสอบเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นได้ด้วยตนเองได้ ในวันและเวลาราชการโดยไม่ต้องนัดหมายเวลาล่วงหน้าได้ที่บก.จร. แต่จุดที่เกิดเหตุต้องเป็นจุดที่มีกล้องของหน่วยงานติดตั้งอยู่ และสามารถจับภาพดังกล่าวได้โดยรายละเอียดชัดเจน รวมถึงวันเวลาที่เกิดเหตุนั้นด้วย หากมีข้อสงสัยในจุดติดตั้งกล้องของ บก.จร. ที่อาจเป็นจุดเกิดเหตุ รวมถึงการเดินทางมายัง บก.จร.สามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่เบอร์1197
หน่วยงานราชการแห่งที่ 2  ที่สามารถตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวทางกล้องวงจรปิดได้คือ กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยประชาชนที่ต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของ กทม. ซึ่งในเบื้องต้นหากมีข้อสงสัยก็สามารถติดต่อขอดูภาพที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ได้เลย
แต่เนื่องจากวัตถุประสงค์ของกล้องนั้นแตกต่างกัน  ซึ่งกล้องวงจรปิดของตำรวจเป็นกล้องที่
บันทึกภาพเจาเป็นช็อตๆ ไป เพื่อจะได้ระบุผู้กระทำผิดอย่างชัดเจน ไม่เหมือนกับกล้องวงจรปิดของ กทม.ที่เป็นระบบมุมมองกว้างๆ เพื่อเป็นลักษณะเพื่อตรวจตราและติดตามพฤติกรรมที่เกิดขึ้นมากกว่าการเจาะจงบุคคลคนนั้น

ดังนั้นกล้องของตำรวจที่ว่านั้นเป็นกล้องที่มีความละเอียดสูงมาก ตกราคาประมาณตัวละแสนกว่าบาท ขณะที่กล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานครที่ใช้อยู่ตัวละไม่ถึง 40,000 บาทเท่านั้น เพราะลักษณะงานคนละแบบกัน แต่หากต้องการใช้แบบเฉพาะเจาะจงจริงๆ อย่างวันนี้ต้องการจับภาพให้ชัดเจนตรงจุดไหน ก็สามารถทำได้โดยเปลี่ยนระบบที่เป็นมุมกว้างทั่วไปมาเป็นระบบโฟกัสเฉพาะจุดได้

 3. ใช้ตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยได้
การใช้กล้องวงจรปิดในปัจจุบันด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ทำให้สามารถการตรวจสอบการทำงานได้ในหลายๆด้าน เช่น การใช้ดูในจุดล่อแหลมเพื่อป้องกันตนเอง เช่น ดูผู้กดกริ่งหน้าบ้าน ดูผู้มาติดต่อ ดูในจุดเปลี่ยวอันตรายโดยไม่ต้องเดินทางเข้าไปเสี่ยงในจุดนั้น, การใช้ดูความคืบหน้าของงานซ่อมในอู่ซ่อมรถ หรือพนักงานที่กำลังปฏิบัติหน้า, การใช้ตรวจสอบเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ เช่น ดูว่าหน้าบ้านรถติดไหม ฝนตกหรือไม่  มีผู้สงสัยมาป้วนเปี้ยนหน้าบ้านเราหรือไม่  หรือการใช้สำหรับการค้นคว้าวิจัย เรื่องต่างๆเฉพาะด้าน เช่น สัตวแพทย์ ใช้แอบดูพฤติกรรมสัตว์บางชนิดแบบไม่รบกวนสัตว์
หากในวงการธุรกิจ เช่น ธนาคาร ห้างสรรสินค้า โรงแรม สนามบินหรืออาคารสำนักงานของเอกชนยิ่งมีความจำเป็นในการใช้กล้องวงจรปิดตรวจสอบบุคคลที่จะเข้าออกในสถานที่ว่ามีพฤติกรรมของบุคคลที่น่าสงสัยหรือไม่  หากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็สามารถแจ้งให้ รปภ.หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยระงับเหตุหรือจับตัวผู้ร้ายได้ทันท่วงที

 

4. สามารถดูผ่านมือถือได้
         ปัจจุบันสามารถตั้งค่าดูกล้องวงจรปิดให้ออนไลน์ดูผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ในหลายDevice  เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการทั้งผ่านหน้าจอมอนิเตอร์  แทบเล็ต  แล็บท็อปและโทรศัพท์มือถือ  โดยการตั้งค่าในโทรศัพท์มือถือสำหรับดูกล้องวงจรปิดแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆได้แก่
1.การดูผ่านโทรศัพท์  I-Phone , I-Pad หรือมือถือในระบบปฏิบัติการ ร iOS โดยติดตั้งโปรแกรมผ่าน App Store เช่น แอพพลิเคชั่น Suchinkocctv และ HVR cloud
2.การดูผ่านโทรศัพท์ Sumsung , Asus, Lenovo, HTC  ฯลฯ หรือมือถือในระบบปฏิบัติการ Android  ผ่าน Play Store  ซึ่งจะมีแอพพลิเคชั่นให้เลือกมากมาย เช่น eagleeyes, dvrmoblie  โดยสมาร์ทโฟนราคา  3-4 พันบาทอย่าง Samsung Galaxy Y  ก็สามารถติดตั้งดูภาพจากกล้องวงจรปิดออนไลน์กันได้แล้วในปัจจุบัน
สำหรับอุปกรณ์ที่จะต้องมีเพิ่มเติมนอกจากมือถือคือ ชุดกล้องวงจรปิดพร้อมสายติดตั้ง  และเครื่อง DVR โดยจะต่อตรงกับอินเตอร์เน็ต (เชื่อมต่อผ่านทางพอร์ท Lan) ไม่จำเป็นต้องต่อกับเครื่อง PC   ซึ่งหากดูบนมือถือนอกบ้านก็จะค่าอินเตอร์เน็ตตามโปรโมชั่นของผู้ให้บริการ หรือกรณีดูบนมือถือในบ้านก็ผ่านทาง WIFI  โดยก็ไม่ต้องเสียอะไรเพิ่มเติมอีก

 

5. เพื่อความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน 
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในยุคนี้ทำให้สามารถติดตั้งกล้องวงจรปิดได้ทุกที่อยากติด ไม่ว่าจะเป็นในรถ ในบ้าน ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน หมู่บ้านจัดสรรและร้านสะดวกซื้อ ซึ่งแล้วแต่จุดประสงค์ของผู้ใช้ว่าจะติดตั้งไว้เฝ้าระวัง หรือเป็นมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากกล้องวงจรปิดสามารถดูตลอดเวลาในลักษณะ Realtime  อย่างกลุ่มธุรกิจจะก็อยากให้กล้องวงจรปิดชนิดติดตั้งรถบรรทุกสินค้าแบบ Realtime 3G เพื่อตรวจสอบภาพการเดินทางเส้นทางพร้อมระบบสื่อสารสองทางเพื่อคุ้มครองทรัพย์สินให้เจ้าของผลิตภัณฑ์ให้ถึงที่หมายอย่างเรียบร้อยปลอดภัย
หรือแม้แต่ธุรกิจโรงพยาบาลยังมีกล้องวงจรปิด Realtime-3G โครงการรถกู้ชีพพร้อมปุ่มแจ้งเตือนฉุกเฉินเพื่อตรวจสอบภาพการเดินทางเส้นทาง พร้อมระบบสื่อสารสองทางเพื่อคุ้มครองทรัพย์สิน อำนวยความสะดวกในการทำงานให้แก่เจ้าหน้าที่ ส่งผู้บาดเจ็บถึงที่หมายอย่างเรียบร้อยปลอดภัย
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกรมการขนส่งทางบกได้ออกประกาศมาตรการและข้อบังคับสำหรับควบคุมดูแลผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะทั้งรถเมล์ รถตู้ และรถบัสที่อยู่ในความดูแลของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บ.ข.ส.) และ ขสมก. เช่น การออกประกาศบังคับให้รถโดยสารสาธารณะติดแถบตรวจบันทึกความเร็ว (RFID) ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2555 ที่ผ่านมา เพื่อคอยควบคุมพฤติกรรมคนขับรถไม่ให้ขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด  เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ขับรถโดยสารสาธารณะเหล่านี้ขับรถเร็วกว่ากำหนดจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอยู่บ่อยครั้ง
ซึ่งเทคโนโลยี RFID มาตรวจจับความเร็วรถตู้โดยสารสาธารณะที่วิ่งบนทางยกระดับโทลล์เวย์ทางพิเศษ ทางหลวงพิเศษและทางหลวงแผ่นดิน ครอบคลุมเส้นทางรัศมี 300 กิโลเมตร รอบกรุงเทพฯ 11 เส้นทาง พร้อมจัดชุดผู้ตรวจการออกปฏิบัติงานตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะด้วยกล้องตรวจจับความเร็ว (กล้องเลเซอร์) ในเส้นทางหลักเข้า-ออกกรุงเทพฯ ไปยังต่างจังหวัดมาโดยตลอดนั้นส่งผลให้การใช้ความเร็วของรถโดยสารสาธารณะ โดยเฉพาะรถตู้โดยสารสาธารณะที่วิ่งด้วยความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนดลดน้อยลง มสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการได้มากขึ้น
ในส่วนของกทม.ก็จะติดตั้งกล้องวงจรปิดในเขตพื้นใจกลางเมืองเป็นหลักเพื่อเน้นเรื่องการจับผิดผู้ที่ฝ่าฝืนกฎจราจรและตรวจจับโจรผู้ร้ายและผู้ลอบวางระเบิดที่กระทบต่อความมั่นคง ซึ่งกทม.ได้ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่กรุงเทพฯโดยเฉพาะจุดทางร่วมทางแยกสำคัญจุดพื้นที่ชุมนุมคนในย่านเศรษฐกิจย่านท่องเที่ยวในเมือง        ส่วนในพื้นที่ชานเมืองซึ่งยังไม่สามารถติดตั้งได้ครบทุกพื้นที่ กทม.อยู่ระหว่างจัดหางบประมาณเพื่อดำเนินการ
นอกจากนั้นยังมีการการติดตั้งกล้องวงจรปิดจะเน้นติดตั้งในจุดพื้นที่เสี่ยง ซึ่งการติดตั้งกล้องจะมีการประสานงานไปยังเจ้าหน้าตำรวจและสำนักงานงานเขตในพื้นที่นั้นๆ เพื่อกำหนดจุดติดตั้งที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรมกับประชาชน รวมทั้งการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ประตูระบายน้ำ เนื่องจากที่ผ่านมามีกรณีประชาชนเข้าขโมยสายไฟหรืออุปกรณ์ต่างๆ บริเวณประตูระบายน้ำบางพื้นที่ โดยปัจจุบันกทม.มีกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งแล้วรวม 47,668 ตัว (ข้อมูล ณ ปี 2557) พร้อมทั้งจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ดูแลระบบกล้อง CCTV และทีมบำรุงรักษาประจำตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักของการติดตั้งกล้องวงจรปิดยังมุ่งเน้นเพื่อความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน  โดยเฉพาะเจ้าของอาคารและบุคคลทั่วไปที่นิยมติดตั้งกล้องในบ้านพักอาศัยและสำนักงานมากขึ้นโดยลดการจ้างบริษัทหรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้น้อยลง ซึ่งเป็นการเสียค่าใช้จ่ายเพียงครั้งเดียวและค่าบำรุงรักษาก็น้อยมาก  และที่สำคัญมีสำคัญมีการตรวจสอบได้ตลอด 24 ชั่วโมงจากที่ทำงานหรือระหว่างการเดินทางโดยผ่านสมาร์ทไฟนเท่านั้น เช่น การจ้างพี่เลี้ยงเด็กให้มาดูแลลูกที่บ้าน  ซึ่งหากจัดเตรียมห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนชัดเจนแล้วติดตั้งกล้องวงวงจรปิดในมุมที่พ่อแม่สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวของลูกและพี่เลี้ยงได้ตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยของลูกและจะได้ตรวจสอบได้ว่าพี่เลี้ยงนั้นปฏิบัติต่อลูกคุณอย่างไรบ้าง  หรือมีการขโมยทรัพย์สินในบ้านหรือไม่ ฯลฯ

ขอบคุณที่มา : www.cctvbangkok.com


 

กล้องวงจรปิดมาตรฐานระดับโลก ต้องกล้องวงจรปิดลองเซ่

‪#‎ลองเซ่กล้องวงจรปิดระดับโลก‬ ‪#‎ลองเซ่คมชัดปลอดภัย‬ ‪#‎longse‬ ‪#‎กล้องวงจรปิด‬ ‪#‎กล้องวงจรปิดลองเซ่‬

ติดตามเราได้ที่
www.longsethailand.com
facebook.com/LongseStore.Thailand
twitter.com/LongseThailand
call center : 025958000

NO COMMENTS

Leave a Reply

*