คลังความรู้

ปัจจุบันระบบกล้องวงจรปิด เป็นที่นิยมแพร่หลายมาก ทำให้มีผู้ขายสินค้าตัวนี้มากมาย โดยเฉพาะใน websites ซึ่งผู้ซื้อจะต้องระมัดระวังในการซื้อสินค้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาจจะได้รับสินค้าที่ใช้ได้แค่ 6 เดือน ถึง 2 ปี และไม่มีบริการหลังการขาย

ระบบโทรทัศน์วงจรปิด หรือ CCTV System เป็นระบบส่งภาพจากตัวกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ติดตั้งตามที่ต่างๆ มายังระบบแสดงผลภาพ โดยทั่วไปจะอยู่คนละที่กับกล้อง กล้องวงจรปิดในปัจจุบันนี้แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ กล้องวงจรปิดแบบอนาล็อก(Analog Camera) และกล้องวงจรปิดแบบเน็ตเวิร์ค(IP Camera) ซึ่งกล้องแต่ละประเภทก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน

 

ประโยชน์การใช้งาน ระบบโทรทัศน์กล้องวงจรปิด

  1. ในด้านการรักษาความปลอดภัย ของบุคคลและสถานที่
  2. ในการตรวจสอบการทํางานของเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ทํางานด้วยระบบอัตโนมัติหรือการทํางานของพนักงาน
  3. ใช้งานร่วมกับระบบควบคุมอาคารอัตโนมัติ เช่น ตรวจสอบจํานวนคนเพื่อการเปิด-ปิด เครื่องปรับอากาศฯ
  4. ใช้งานร่วมกับระบบควบคุมการจราจร เช่น ตรวจสอบปริมาณรถยนต์ฯ เป็นกล้องวงจร

Analog Camera

กล้องวงปิดแบบ Analog เป็นกล้องที่ใช้สายสัญญาณชนิด โคแอคเชียล หรือ ตระกูล RG มาเป็นอุปกรณ์นำสัญญาณ ข้อจำกัดที่พบเช่น สายสัญญาณถูกคลื่นรบกวน ทำให้ภาพที่ได้ไม่ชัด

 

ข้อดี

  • ต้นทุน: ระบบอนาล็อกมีต้นทุนที่ถูกกว่าระบบ IP
  • ยืดหยุ่นกว่า : เนื่องจากว่ามีกล้องหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ตั้งแต่ระบบเล็กไปถึงระบบใหญ่ มีอินฟราเรดติดตั้งมาพร้อมกับกล้อง ทำให้มีตัวเลือกสำหรับการใช้งานประเภทต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม
  • ความเข้ากันได้ : ในระบบอนาล็อกมีเพียงระบบ PAL และ NTSC เท่านั้น ทำให้สามารถเลือกกล้องต่างยี่ห้อมารวมในระบบเดียวกันได้
  • ปัญหาน้อย : เนื่องจากว่าระบบอนาล็อกถูกพัฒนามามาก จนแทบจะเรียกได้ว่าอยู่ในช่วงสุดท้ายของเทคโนโลยีของระบบอนาล็อกแล้ว ทำให้ปัญหาต่างๆถูกแก้ไขไปจนหมด ทำให้ปัญหาต่างๆของระบบอนาล็อกเกิดขึ้นน้อยมาก

ข้อเสีย

  • function : ระบบอนาล็อกไม่มีฟังชั่นเช่นเดียวกับที่กล้อง IP มี เว้นแต่กล้องอนาล็อกในระบบราคาแพงเท่านั้น
  • ความปลอดภัย : ระบบอนาล็อกมีความปลอดภัยน้อย เนื่องจากไม่มีการเข้ารหัสของข้อมูล ไม่ว่าใครก็สามารถดูภาพจากกล้องวงจรปิดได้
  • ระยะทาง : ไม่สามารถรองรับการส่งสัญญาณในระยะไกลๆได้

 

IP Camera

กล้องวงปิดแบบ IP เป็นกล้องที่ต้องตั้งค่า IP ผ่านระบบเครือข่าย เพื่อกำหนดตัวตนในการแสดงภาพ และต้องอาศัยสายชนิด LAN หรือ CAT5 มาเป็นตัวต่อเชื่อมต่อ หรือบางรุ่นอาจใช้เป็นแบบไร้สายได้ ระบบนี้มีราคาแพงกว่าระบบแรก และต้องอาศัยความรู้มากกว่าในการเซ็ตระบบ

 

 

ข้อดี

  • Wirless สนับสนุนการทำงานผ่านระบบเครื่อข่ายไร้สายมากกว่า Analog
  • ระบบเครื่อข่ายเดิม : กล้อง IP สามารถใช้ร่วมกับระบบ LAN ที่มีอยู่แล้วได้โดยไม่ต้องเดินสายใหม่
  • เพิ่มกล้องได้ง่าย : หากต้องการเพิ่มกล้องสามารถทำได้ง่ายโดยไม่ติดข้อจำกัดของ Channel ที่จำกัดของ DVR อีกต่อไป
  • ประสิทธิภาพสูง : เนื่องจากกล้อง IP แต่ละตัวทำงานแยกอิสระ ไม่ได้ส่งภาพไปประมวลผลที่ตัวกล้อง ทำให้ได้ภาพที่มีคุณภาพ “เต็มที่” ไม่อั้นที่ DVR อีกต่อไป
  • แต่ละตัวมี IP ของตัวเอง ทำให้การตั้งค่ากล้องแต่ละตัวทำได้ง่าย
  • ความละเอียด : เนื่องจากเป็นระบบ Digital ทำให้สามารถข้ามข้อจำกัดที่ระบบอนาล็อกไม่สามารถทำได้ นั่นคือ ข้ามจาก 576 TVL ไปเป็น 1080p
  • POE : บางรุ่นสามารถส่งสายไฟไปพร้อมกับสาย LAN ได้ โดยไม่ต้องเดินสายไฟแยกต่างหาก
  • ความปลอดภัยสูงมาก : เนื่องทำงานบนระบบ digital สามารถที่จะ backup ข้อมูลได้ตลอดเวลาบน server และ hacker ไม่สามารถ “ดัก”เอาข้อมูลระหว่างทางได้

ข้อเสีย

  • การส่งผ่านข้อมูล : เนื่องจากใช้ Bandwidth สูงมาก ตั้งแต่ 500 kbps ถึง 1.5 Mbps ทำให้ระบบทำงานหนัก
  • ต้นทุน : ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นกว่าระบบอนาล็อก ไม่ว่าจะเป็นค่าอุปกรณ์, การดูแลรักษา รวมไปถึง ความรู้ของผู้ที่บริหารจัดการข้อมูล
  • ใช้ข้ามยี่ห้อไม่ได้ : เนื่องจากระบบถูกพัฒนาจากหลายรายทำให้มีมากกว่า 1 มาตรฐาน จึงไม่สามารถใช้กล้องที่มี Protocal ต่างกันคุยกันได้ พุดให้เข้าใจง่ายๆคือ “ข้ามยี่ห้อไม่ได้” นั่นเอง

ตอนนี้เราก็ทราบข้อดี-ข้อเสีย ของกล้องทั้ง 2 ประเภทไปแล้ว จะเลือกใช้งานกล้องวงจรปิดแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งาน ความเหมาะสมของสถานที่และประโยชน์ที่จะได้รับ ลองศึกษาดูนะค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก  : http://www.cctv.co.th/news-article-11.php


 

#‎ลองเซ่กล้องวงจรปิดระดับโลก‬ ‪#‎ลองเซ่คมชัดปลอดภัย‬
‪#‎longse‬ ‪#‎กล้องวงจรปิด‬ ‪#‎กล้องวงจรปิดลองเซ่‬
ติดตามเราได้ที่
www.longsethailand.com
facebook.com/LongseStore.Thailand
twitter.com/LongseThailand
call center : 025958000

การติดตั้งกล้องที่ดีนั้นควรมีการเตรียมการไว้สำหรับการตรวจซ่อม โดยควรจะมีจุดสำหรับเชื่อมต่อสายของอุปกรณ์ต่างๆของกล้อง โดยจะทำการติดตั้งและเชื่อมต่อ ภายใน Service Box โดยอุปกรณ์ต่างๆนั้น ก็ได้แก่


 

– Adaptor หรือ Power Supply สำหรับการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กล้อง การเลือก Adaptor หรือ Power Supply นั้นมีหลักการดังนี้คือ แรงดันไฟฟ้า (Voltage : Vมีหน่วยเป็นโวลต์ (Volt) ให้ตรงกับความต้องการของกล้อง กระแสไฟฟ้า (Current : I ) มีหน่วยเป็นแอมแปร์ (Amp) มากพอกับที่กล้องต้องการ

– Fiber Converter สำหรับแปลงสัญญาณแสงเพื่อส่งภาพไปยังห้องควบคุมในกรณีที่มีระยะทางไกลกันมากๆ

– Surge Protection สำหรับป้องกันอันตรายของอุปกรณ์ จากฟ้าผ่า

– Circuit Breaker สำหรับควบคุมเพื่อมิให้อุปกรณ์ได้รับความเสียหาย เนื่องจากการลัดวงจร หรือการใช้ไฟเกิน

– UPS หรือ Uninterruptible Power Supply หรือ เครื่องจ่ายไฟสำรอง

ในการติดตั้งกล้องวงจรปิดนั้น ก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากมาก แต่ก็ไม่ง่ายนัก แต่หากเราทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องนั้นก็จะดูง่าย และจะส่งผลให้การใช้งานนั้นมีประสิทธิภาพและคงทน

ในการติดกล้อง Fixed ใน Housing การติดตั้งที่ดีนั้น สิ่งที่ควรคำนึงถึง คือ

– ท่อสำหรับร้อยสายจ่ายกระแสไฟฟ้า และสายสัญญาณภาพ เช่นสาย Coaxial และ สาย LAN ควรแยกออกจากันเพื่อป้องกันการรบกวนที่เกิดจากไฟฟ้า

– มีความทนทาน มั่นคงแข็งแรง ป้องกันการถูกรบกวนจากสภาพแวดล้อม เช่นความชื้น ความร้อน ฝุ่นละออง การกระทบกระแทกต่างๆเป็นต้น

หลังจากที่เราติดตั้งกล้องลงใน Housing จากนั้นจึงต่อสายสัญญาณและสายไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการปรับภาพให้ได้มุมมอง และความคมชัดที่ต้องการแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการปรับตำแหน่ง ซึ่งในที่นี้ก็คือการหมุนซาย-ขวา และก้มเงย เพื่อให้ทิศทางการมองของกล้องดีขึ้น

การติดตั้งกล้องบนอาคารสถานที่ หรือ สิ่งปลูกสร้าง และเสาสำหรับการติดตั้งกล้อง ในการติดตั้งกล้องนั้น เราสามารถใช้ อาคารสถานที่ หรือสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่เป็นสถานที่ติดตั้งได้ และบางครั้ง หากต้องการติดตั้งกล้องในสถานที่ที่ไม่เอื้ออำนวยในการยึดเกานั้น เราสามารถตั้งเสาสำหรับติดตั้งกล้องก็ได้ การติดตั้งกล้องไว้ใต้เพดานนั้น เรามักจะใช้กล้องแบบโดม ซึ่งมีสิ่งที่เราควรคำนึงถึงนอกจากการจับยึดให้แน่นเพื่อกันตกแล้ว ก็คือ ไม่ควรวาง Adaptor หรือ Power Supply ไว้ใต้เพดาน เพราะอาจเกิดอัคคีภัยได้ ควรวางไว้ใน Service Box รวมถึงการเชื่อมต่อสายต่างๆ เราไม่ควรจะทำบนฝ้า หากเกิดการทำงานที่ผิดปกติขึ้น เราก็สามารถที่จะเปิดฝาออกและตรวจซ่อมได้โดยง่าย

Cadit: http://www.cctv.co.th/news-article-13.php


 

‪#‎ลองเซ่‬ ‪#‎กล้องวงจรปิดลองเซ่‬ ‪#‎กล้องวงจรปิดระดับโลก‬ ‪#‎cctv‬
ติดตามเราได้ที่
www.longsethailand.com
facebook.com/LongseStore.Thailand
twitter.com/LongseThailand
call center : 025958000

0 4576

ระบบสัญญาณกันขโมยทำงานอย่างไร?

ระบบสัญญาณกันขโมยทำหน้าที่เสมือนยามรักษาความปลอดภัยในทุกจุดของบ้านคุณ สามารถแจ้งเหตุผ่านทางโทรศัพท์มือถือและโทรศัพท์บ้านพร้อมทั้งส่งเสียงไซเรนดังถึง 110 เดซิเบล

0 9784

รวมวิธีป้องกันขโมย ตีนแมว ขึ้นบ้าน โดนยกเค้าทีหนึ่งอาจหมดเนื้อหมดตัวได้

“ขโมยขึ้นบ้าน” คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองและคนที่เรารักเป็นแน่ เพราะหากโดนยกเค้าทีหนึ่งสำหรับบางคนแล้วอาจถึงกับหมดเนื้อหมดตัวเลยทีเดียว อุตส่าห์ตั้งใจทำงานเก็บเงินเพื่อสร้างครอบครัว สร้างความเป็นอยู่ที่ดี แต่ดันมาถูกหัวขโมยที่ไม่มีจิตสำนึกมาปล้นเอาไปซะดื้อๆอย่างนั้น ใครไม่โดนหรือเจอกับตัวเองก็คงจะไม่มีทางรู้ว่ามันเจ็บปวดขนาดไหน


 

ถึงแม้ปัญหาโจรขโมยขึ้นบ้านจะเป็นเรื่องใหญ่และหาทางป้องกันยากขนาดไหน แต่เราก็จำเป็นต้องทำ เพื่อรักษาสิ่งมีค่า ทรัพย์สมบัติที่อยู่ในบ้านของเราให้อยู่กับเราไปได้นานที่สุด วันนี้ Homeenrich มีวิธีป้องกันขโมยขึ้นบ้านหลายๆวิธีมาฝากครับ ตามมาดูกันได้เลย

เริ่มจากรั้วบ้านปราการด่านแรก

การป้องกันขโมยขึ้นบ้านที่ดีนั้น ก่อนอื่นมาเริ่มจากปราการด่านแรกของเรากันก่อน นั่นก็คือ “รั้วบ้าน” รั้วบ้านที่ดีควรเป็นอย่างไร? รั้วบ้านที่ใช้ในกาป้องกันโจรขโมยที่ดี ถ้าเป็นรั้วปูนควรเป็นรั้วที่มีความสูงมากๆ สูงอย่างน้อยก็ 3 เมตรขึ้นไปถึงจะดี ยิ่งสูงมากเท่าไร การจะปีนป่ายเข้ามาภายในตัวบ้านก็ยากมากขึ้นเท่านั้น และท่าจะให้ดีก็ติดเหล็กปลายแหลมไว้บนกำแพงด้วย เพื่อเพิ่ม level ความยากในการการปีนขึ้นไปอีก แต่ถ้าเป็นรั้วเหล็กก็ให้ทำเป็นรั้วสแตนเลสไปเลย แข็งแรง ทนทาน ยากต่อการตัด แต่ราคาก็แพงไปตามคุณภาพอ่ะนะ ก็เลือกดูตามความเหมาะสมของตังค์ในกระเป๋าของแต่ละคนก็แล้วกัน

นอกจากการสร้างรั้วขึ้นมาป้องกันขโมยแล้ว การปลูกต้นไม้ที่มีหนามเยอะๆที่มีความสูงไม่เกิน 2-3 เมตรไว้ที่ริมรั้ว ก็เป็นการป้องกันการปีนป่ายของโจรขโมยได้เป็นอย่างดี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการป้องกันโจรขึ้นบ้านที่น่าสนใจเช่นกัน

ประตูหน้าต่างตรวจสอบให้แน่นหนา

จุดที่ขโมยใช้เป็นทางเข้ามาในตัวบ้านง่ายที่สุดก็คือ ประตูและหน้าต่างของบ้านเรานั่นเอง ซึ่งเราก็รู้ทั้งรู้นะว่าขโมยจะเข้ามาทางนี้ แต่พี่แกก็เก่งเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นประตูแบบไหน ล็อคกุญแจยี่ห้ออะไร ใส่เหล็กดัดกี่ชั้น ก็สามารถพัง สะเดาะกลอน งัดแงะ ประตูหน้าต่างเข้ามาขโมยของในบ้านจนได้ แต่ถึงการป้องกันในจุดนี้จะยากขนาดไหน เราก็จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับประตูและหน้าต่างบ้านของเราอยู่ดี อย่างน้อยๆก็ทำให้มันแข็งแรง งัดยากขึ้น เพื่อให้เวลาพี่แกมาขโมยจะได้เสียเหงื่อ และเสียเวลามากหน่อย อย่างว่าอยากได้ของคนอื่นก็ต้องลงทุนลงแรงมากหน่อย ถึงจะได้ของดีมีค่าไป(ประชดซะเลย)

ประตูบ้าน 2 ชั้น ไม่เอาลูกบิด

ก่อนอื่นให้เราไปตรวจสอบประตูทุกบานที่อยู่ในบ้านของเราก่อน ว่ามันแข็งแรงมากน้อยแค่ไหน โดยประตูที่สามารถเปิดออกไปนอกตัวบ้านนั้นควรเป็นประตูที่ไม่มีลูกบิดจะดีที่สุด เพราะบริเวณลูกบิดประตูเป็นจุดที่สามารถถูกทำลายหรือเจาะเข้ามาได้ง่าย ให้ล็อคประตูด้วยกลอนหลายๆตัว และติดตั้งประตูเหล็กดัดเอาไว้อีกชึ้นหนึ่ง จะช่วยป้องกันการงัดแงะได้ดีกว่า แต่ถ้าจะให้งัดยากขึ้นไปอีก ให้เราติดตั้งตัวยูสำหรับคล้องกุญแจไว้ที่ประตูอีกตัวหนึ่ง เอาไว้คล้องกับประตูเหล็กดัดอีกชึ้นหนึ่ง แล้วทำให้ประตูที่ติดด้านนอกเปิดออก ในขณะที่ประตูเหล็กดัดเปิดเข้า ลองนึนถึงสภาพขโมยที่ต้องงัดบ้านดูสิครับ ว่าจะยากขนาดไหน

 

หน้าต่างต้องแน่นหนา

หน้าต่างก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ขโมยสามารถพังเข้ามาได้ง่ายไม่แพ้ประตู การป้องกันหน้าต่างที่ดีก็คือการติดเหล็กดัดให้แน่นหนา โดยเหล็กดัดที่เลือกใช้ควรเป็นเหล็กที่หนาหน่อย แล้วไม่ต้องเอาแบบที่มีลายสวยๆ เป็นเถาวัลย์พันๆกันอะไรประมาณนั้น เพราะมันมีจุดเชื่อมเหล็กมาก และเหล็กบริเวณนั้นจะบางเป็นพิเศษ ใช้ครีมตัดเหล็กสักตัวก็ขาดแล้ว ถ้ามีงบมากหน่อยก็ติดลูกกรงแบบสแตนเลสไปเลย รับรองตัดยากสุดๆ

อีกจุดที่สำคัญในการป้องกันหน้าต่างก็คือ ตรงสกรูหรือน็อตที่ยึดเหล็กดัดเข้าไปกรอบหน้าต่าง ควรหาปูนมาโบกทับปิดหัวตะปูหรือหัวสกรูไว้ เพื่อให้ยากต่อการขันหรืองัดแงะมากขึ้น และที่สำคัญอย่าสร้างหน้าต่างไว้ใกล้ๆกับประตูเด็ดขาด เพราะถ้างัดหน้าต่างเข้ามาได้ การเอื้อมมือมางัดประตูก็จะง่ายขึ้นมาก ดังนั้นควรสร้างไว้ให้ไกลกันสักหน่อย กันไว้ดีกว่าแก้

ความสว่างช่วยคุณได้

อีกหนึ่งเรื่องที่สามารถช่วยป้องกันโจรขโมยเวลาที่เราไม่อยู่บ้านได้ดีก็คือ เรื่องความสว่างภายในบ้านและนอกบ้าน ยิ่งบ้านเรามีมุมมืดน้อยเท่าไร โอกาสการโดนขโมยของก็น้อยลงเท่านั้น เพราะฉะนั้นเวลาที่เราไม่อยู่บ้านเราควรเปิดไฟหลอกขโมยพวกนี้เอาไว้ เพื่อให้พี่แกคิดว่ามีคนอยู่ในบ้าน จะได้ไม้กล้าเข้ามาขโมยของ โดยอาจจะติดตั้งระบบการเปิดปิดไฟแบบอัตโนมัติหรือ Timer เอาไว้ โดยระบบไฟแบบนี้เราสามารถเซ็ตได้ว่าจะให้เปิดปิดไฟเวลาไหนได้บ้าง เราก็ตั้งเอาไว้ตอนตกดึกให้ไฟมันเปิดเอง เพื่อหลอกตาให้คนอื่นคิดว่ามีคนอยู่ในบ้านตลอดเวลา เป็นการป้องกันขโมยขึ้นบ้านที่ดีอีกวิธีหนึ่ง


สัญญาณกันขโมยและกล้องวงจรปิด มันช่วยได้เยอะจริงๆ

หากใครมีทุนทรัพย์มากแล้วล่ะก็ การติดตั้งสัญญาณกันขโมยหรือกล้องวงจรปิด ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันขโมยขึ้นบ้านได้เป็นอย่างดี เดี๋ยวนี้มีพวกสัญญาณกันขโมยออกมาให้เลือกมากมาย จะให้ดีก็เลือกที่มันเป็น sensor จับการเคลื่อนไหวหรือสิ่งผิดปกติจะดีมาก เอามาติดไว้แถวๆประตูทางเข้าบ้านเวลาที่เราไม่อยู่ ก็ช่วยให้อุ่นใจได้เยอะ

ส่วนกล้องวงจรปิดนั้นก็เป็นอุปกรณ์ที่เดี๋ยวนี้นิยมติดเพื่อป้องกันโจรขโมยกันเยอะ เพราะราคาถูกกว่าแต่ก่อนมากและสามารถช่วยสร้างความยำเกรงให้กับขโมยที่จะขึ้นบ้านได้ไม่น้อย เดี๋ยวนี้ 10,000-20,000 บาทก็ติดตั้งได้แล้ว หากใครสนใจข้อมูลเกี่ยวกับกล้องวงจรปิดแบบระเอียด ติดตามอ่านได้ที่บทความนี้ครับ ต้องรู้อะไรบ้างก่อนติดตั้งกล้องวงจรปิดที่บ้าน? เพื่อความปลอดภัยของคนที่เรารัก

 

มีเพื่อนบ้านดี เหมือนมียามนับ 10

เพื่อนบ้านที่ดีสามารถช่วยสอดส่อง ดูแลบ้านให้กับเราได้เวลาที่เราไม่อยู่ ต้องไปทำธุระนอกบ้านหรือไปเที่ยวหลายๆวัน เพราะฉะนั้นเราต้องคอยผูกมิตรกับบ้านใกล้เรือนเคียงเอาไว้ เวลาไม่อยู่ก็ฝากให้เขาคอยช่วยดูว่ามีอะไรผิดปกติบ้าง เผื่อมีอะไรไม่ชอบมาพากลอย่างน้อย เขาก็สามารถโทรศัพท์มาบอกเรา หรือโทรไปแจ้งตำรวจแทนเราได้ เวลากลับมาก็ซื้อของฝากคิดไม้ติดมือมาให้เพื่อนบ้านบ้าง เพื่อเป็นการตอบแทนและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนั่นเอง

เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะถูกขโมยเหล่านี้มายกเค้าเอาทรัพย์สินภายในบ้านของเราไปวันไหนบ้าง สิ่งที่เราพอจะทำได้ก็คือการระวังตัวไม่ประมาทในการใช้ชีวิต รู้จักหาวิธีป้องกันด้วยตัวเอง และมีความรอบคอบทุกครั้งที่ต้องออกไปนอกบ้านนานๆ และถ้าจะให้ดีก็ควรใช้เทคโนโลยีที่ดีมาช่วยปกป้องคุ้มกันทรัพย์สินภายในบ้านให้อยู่รอดปลอดภัย ให้อยู่กับเราไปนานๆ “กันไว้ดีกว่าแก้ ถ้าแย่แล้วดีแก้ไม่ทัน” จริงมั๊ยครับ


 

ขอบคุณที่มา : http://goo.gl/fTWJzo

สินค้าที่เกี่ยวข้อง : ชุดกล้องวงจรปิด leotech  ระบบกันขโมยบ้าน  กล้องIPพร้อมระบบกันขโมยไร้สายในตัว

  • บริษัท ลีโอเทคโนโลยี แอนด์ มาร์เกตติ้ง จำกัด
  • 56/32 หมู่ 1 ซ.ท่าอิฐ ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
  • www.leotech.co.th

หลักเกณฑ์ต่างๆที่ควรพิจารณาก่อนติดตั้งจานดาวเทียม


(1.)ทิศทางของการตั้งหน้าจาน ต้องดี ไม่มีสิ่ง กีดขวาง ไม่มีอะไรมาบดบัง ทิศทางการรับสัญญาณ ช่างติดตั้งจะต้องทำงานไสดวก ไม่ลำบากจนเกินไป เพราะเผื่อมีปัญหา ใดๆเกิดขึ้นจะได้ ทำการเซอร์วิสท์ โดยสะดวก ทิศทางการติดตั้งควรสามารถหันไปรับดาวเทียมดวงนั้นๆได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะในอนาคตท่านอาจต้องการปรับจานไปรับดาวเทียมดวงอื่นๆอีก หรืออาจจะมีดาวเทียมดวงใหม่ๆ ส่งขึ้นไปในวงโคจรท่านจะได้ไม่ต้องย้ายจุดติดจานบ่อยๆโดยทิศทางที่หันไปรับจานดาวเทียม จะต้องไม่มีสิ่งปลูกสร้างหรือต้นไม้มาบดบัง

เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม(Satellite Receivre)

เครื่องรับสัญญาณดาวเทียมหรือตัวรีซีฟเวอร์ ในบางครั้งอาจจะถูกเรียกว่า เซ็ตท็อปบ็อกซ์(Srt Top Box)
หรืออาจจะถูกเรียกว่า IRD(Integreated Receiver&Decoder) แต่โดยรวมแล้วก็คือเครื่องรับสัญญาณเหมือนกัน เพียงแต่อาจจะมีฟังก์ชั่น การทำงาน หรือคุณสมบัติบางอย่างที่แตกต่างกันออกไปบ้างเท่านั้น หน้าที่ของเครื่องรับสัญญาณ ดาวเทียม คือ จะแปลงสัญญาณ IF ที่วิ่งลงมาตามสายนำสัญญาณให้ออกมาเป็นภาพและเสียง

เครือข่ายสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงผ่านดาวเทียมระบบ iPSTAR

iPSTAR เป็นระบบเครือข่ายดาวเทียมที่สามารถให้บริการบรอดแบนด์ (Broadband) แบบ 2 ทาง บน Internet Protocol (IP) Platform เพื่อใช้ในการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูง รวมถึงการใช้การประยุกต์ใช้งานอื่น ๆ บน IP Platform , เช่นการต่อเข้าสู่อินเตอร์เน็ต เป็นแบบ ‘Always on’

ความรู้พื้นฐานเรื่องจานดาวเทียม
ระบบการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมนั้น มี 2 แบบ

แบบ C – Bandจะส่งคลื่นความถี่กลับมายังโลกอยู่ในช่วงความถี่ 3.4 – 4.2 GHz ซึ่งจะมีฟุตปริ้นท์ ที่มีขนาดกว้าง ครอบคลุมพื้นที่ การให้บริการได้หลายประเทศ เช่น ของดาวเทียมไทยคม 2/5 พื้นที่ให้บริการ คือทวีปเอเซีย และยุโรปบางส่วน

ข้อดี : การใช้ดาวเทียมระบบนี้เหมาะที่จะใช้ในประเทศใหญ่ๆ เพราะครอบคลุมพื้นที่การให้บริการได้หลายประเทศ ซึ่งใช้ดาวเทียมหนึ่งดวง ก็ถ่ายทอดสัญญาณได้ทั่วประเทศและยังถึงประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงด้วย เช่น จีน, อินโดนีเซีย, เวียดนาม เป็นต้น

ข้อเสีย : เนื่องจากส่งครอบคลุมพื้นที่กว้างๆ ความเข็มของสัญญาณจะต่ำ จึงต้องใช้จาน 4 – 10 ฟุต ขนาดใหญ่รับสัญญาณภาพจึงจะคมชัด

แบบ KU – Band จะส่งคลื่นความถี่ 10 – 12 GHz สูงกว่าความถี่ C-Band สัญญาณที่ส่งจะครอบคลุมพื้นที่ได้น้อย จึงเหมาะสำหรับการส่งสัญญาณเฉพาะภายในประเทศ